ใครว่า NEW NORMAL อยู่ยาก - Mini Me Advertising Co., Ltd.
16473
post-template-default,single,single-post,postid-16473,single-format-standard,ajax_fade,page_not_loaded,,vertical_menu_enabled,side_area_uncovered_from_content,transparent_content,qode-theme-ver-9.4.1,wpb-js-composer js-comp-ver-4.12,vc_responsive,elementor-default,elementor-kit-16817

ใครว่า NEW NORMAL อยู่ยาก

ใครว่า NEW NORMAL อยู่ยาก

  • มองอีกมุม หรือ covid กำลังชวนเรา change mindset
  • หรือมันกำลังตั้งคำถามว่า เราแคร์คนไปหรือเปล่า/เราผลาญเกินไปหรือเปล่า/เราสร้างภาพเกินไปหรือเปล่า/เรา อหังการ เกินไปหรือเปล่า
  • แล้วถ้ามันมา อีกสักสองสามเวฟ จนเรามี “ภูมิพอเพียง” ในระดับมวลชน ไทยเราอาจจะมี scenario ที่ McKinsey คิดไม่ถึง

นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่ทั้งตื่นเต้น และคาดเดาตอนจบไม่ได้ ป่วนประวัติศาสตร์ กำราบ A.I ทำลายความน่าเชื่อถือของมหาอำนาจอย่างสิ้นเชิง

ย้อนกลับไป ช่วงเดือนมกรา ถ้ามีใครมาบอกเราว่า “อีกไม่นาน พี่จะต้อง work from home ห้างที่พี่รักจะปิด พี่จะยอมใส่หน้ากาก ติดล้างมือ และพี่จะสมัครใจอยู่ใต้กฎเคอร์ฟิวของรัฐบาล ที่โคตรชัง อย่างมีวินัย” เราจะด่าว่า มันว่าอะไรของเมิง !?!

แต่ถ้าตอนนี้ มีใครมาบอกว่า “Globalization จะหายไป  มหาวิทยาลัยจะทรานส์ฟอร์ม
การประชุมออนไลน์จะกลายเป็น New Norm” เราก็จะบอกว่า ก็ แหง สิวะ !!

คำว่า New Normal หลอนให้เราตามติดบทวิเคราะห์จนเอียน เลี่ยนทุก scenario จนมาถึงระยะ Burnout !!  เอ้า อะไรจะเกิดก็เอาเลย จุดนี้ หลายคนกลับพบว่า หรือ นี่คือ วิถีที่ควรจะเป็น

สาม-สี่ คำถามที่เป็นตัวทุกข์เริ่มไหลเข้ามา

1. เราแคร์คนเกินไปหรือเปล่า – บ่อยครั้งที่เราทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ นั่งในวงสนทนาที่น่ารังเกียจ ฝืนยิ้ม ฝืนพูดในสิ่งที่ขัดแย้ง ไม่ตรงกับใจ แค่เพราะให้เราอยู่รอด

2. เราผลาญเกินไปหรือเปล่า – อยากมี อยากได้ อยากบอกโลกว่าเราเป็นใคร ถมวัตถุเท่าไหร่ ไม่เคยเต็ม แค่เพราะให้เราเท่าเทียม

 3. เราสร้างภาพเกินไปหรือเปล่า – อยากได้รับการยอมรับ เช็คอินอวดสาธารณะ พล่ามเรื่องไร้สาระ อัปสถานะที่ไม่มีใครถาม แต่เพราะให้เรามีตัวตน

ชีวิตเกินพอ ทำให้เราเข้าสู่วงจรอ่อนแอ ติดหนี้ > รังแก > หักหลัง > ระแวง > อวด > อิจฉา อยากได้ อยากมี > ติดหนี้ > รังแก > หักหลัง > ระแวง > อวด > อิจฉา อยากได้ อยากมี > ติดหนี้…

หลังโควิด วงจรเดิมของหลายคน ก็ถูกแทนที่ด้วย วงจรใหม่  ไม่อยากสร้างหนี้ > ไม่อยากสังคม > ไม่อยากอวด > ไม่อยากมี > ไม่อยากสร้างหนี้ > ไม่อยากสังคม > ไม่อยากอวด > ไม่อยากมี > ไม่อยากสร้างหนี้… 

social distancing ทำให้เราเริ่มเป็นตัวเอง ใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน กินอยู่เรียบง่าย ใส่เสื้อผ้าชุดเดิม 
ไม่อัปสเตตัส ไม่ส่องชีวิตใคร ไม่หลงคำโฆษณาของเหล่าบล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ตัวแม่-ตัวมอย

ถ้ามันกลับมาอีกสักสองสามเวฟ เราอาจจะมี “ภูมิพอเพียง” ในระดับ Herd immunity เกิดความแข็งแรงทางจิตใจ แพร่สู่มหาชน ตัวกิเลสทั้งหลาย ก็ระบาดเข้ามาไม่ได้

เมื่อเราพึ่งพาตัวเองได้ มีชีวิตที่สงบ เคารพในตัวเองและผู้อื่น เราก็เลิกเปรียบเทียบ เลิกตัดสิน กลายเป็นคนอิ่มเต็ม มีเมตตา ไม่สะสม ไม่ซับซ้อน

อนาคตข้างหน้า ประเทศเราอาจจะมี อนุสาวรีย์โควิด สร้างเป็นสัญลักษณ์แห่งการปลดหนี้ และช่วยให้คนอยู่อย่างพอเพียง แน่นอนที่สุด ยังต้องมีคนมา สักการะ ปิดทอง ขูดหวย ขอเลข อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติพันธุ์บันเทิงของเรา

น่าอยู่ไหม… โลกที่มีระยะห่างกาย แต่ใจใกล้กัน