Highlight อ่านไวๆ

1. connect กับธรรมชาติ: วางอุปกรณ์สื่อสาร แล้วมองไปที่ต้นไม้ ใบไม้ มันช่วยลดความวิตกกังวล ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ต้นไม้มีพลังช่วยปลอบประโลมใจ  ทำให้สมองของเราสามารถสร้างการเชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น
2. ทำสมาธิ: การทำสมาธิช่วยให้สมองของเราวางความคิดอันวุ่นวาย และเปิดพื้นที่สำหรับการสังเกต คิดในมุมอื่น ปรับโฟกัส และช่วยให้ตัดสินใจอย่างฉลาด
3. เคลื่อนไหว: การออกกำลังกายช่วยหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน – สารเคมีที่บรรเทาความเครียดและความเจ็บปวด  ทำให้สมองมีพลัง  เกิดความคิดและมุมมองที่แตกต่าง
4. เชื่อมต่อกับผู้คนหลากหลาย: ความหลากหลายทำให้สมองทำงานหนักขึ้น โดยท้าทายต่อความเชื่อแบบเดิมๆ

…………………………………………………………………………..

อ่านเอาลึก

Bas Korsten ครีเอทีฟ สาย copywriter บอกว่าไม่ใช่เพราะเขาเป็นครีเอทีฟ แต่เป็นเพราะตัวเขาได้เรียนรู้วิธีการทำงานของสมอง  สมองต้องการเชื้อเพลิง และต้องการความยืดหยุ่นเพื่อสร้าง  “ช่วงเวลาปิ๊ง !”   หรือ “ไอเดียสั่งได้”

เขาบอกว่า เราทุกคนคุ้นกับการ ฝึกร่างกาย ซ้อมวิ่ง ก่อนไปลงสนาม ..  แต่เรากลับไม่เคยจริงจังกับการ train สมองของเรา

เขาทำงานสายโฆษณามากกว่าสองทศวรรษ (และยังคงทำงาน) ทำให้รู้ว่าความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่พรสวรรค์
คุณต้องฝึกฝนมัน   ตลอดเวลา เขาได้ค้นพบความลับที่ทำให้ไอเดียไหลมาอย่างอิสระ ซึ่งมันมาจากความสนใจใน ศาสตร์ neuroscience   ซึ่งยิ่งเรียนรู้ ก็ยิ่งสามารถฝึกฝน ควบคุม และสั่งให้มันส่งไอเดียมาตามที่ต้องการได้

อยากรู้แล้วสิว่า เขาทำได้อย่างไร

1. connect กับธรรมชาติ

เรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า การใช้เวลาในธรรมชาติทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น การมองไปที่ต้นไม้และใบไม้ — แทนที่จะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเรา — ช่วยลดความวิตกกังวล ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ปลอบประโลมเรา และทำให้สมองของเราสามารถสร้างการเชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น

การใช้เวลาในธรรมชาติที่หมายถึง ไม่ใช่ลางานไปเดินในป่า  แต่เป็นการเดินในพื้นที่สีเขียวในเมืองเพียง 25 นาที
แค่นี้ ก็ทำให้สมองของเราสงบ  ช่วยให้เราเปลี่ยนเข้าสู่โหมดอัตโนมัติได้  British Journal of Sports Medicine ยืนยัน สภาวะนี้ กระตุ้นความตระหนักรู้ในปัจจุบันและเพิ่มพลังให้กับจินตนาการ สภาวะะนี้ ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อความคิด แนวคิด และภาพต่างๆ เพื่อสร้างความคิดใหม่ที่เกี่ยวข้องและใช้งานได้จริง

ดังนั้น จะไปเดินเล่นในสวนสาธารณะใกล้บ้าน  หรือแค่ปลูกต้นไม้ไว้ริมระเบียง  ใช้เวลาอยู่กับต้นไม้
สำคัญ คือ ต้องห่างไกลจากหน้าจอ …  อย่าเดินไปดูมือถือไป

2. ทำสมาธิ

คุณอาจได้ยินมาเป็นล้านครั้ง ว่าทำสมาธิ ช่วยให้สมองของเราวางความคิดอันวุ่นวาย และเปิดพื้นที่สำหรับการสังเกต คิดในมุมอื่น ปรับโฟกัส และช่วยให้ตัดสินใจอย่างฉลาด

แต่ที่เขาจะบอก  คือ การทำสมาธิ ทำให้ทั้งสมองของเราทำงาน !!

ความรู้เดิมๆ คือ สมองข้างขวากระตุ้นความคิดสร้างสรรค์   และสมองข้างซ้ายกระตุ้นงานตัวเลข งานวิเคราะห์
ซึ่งนักประสาทวิทยา บอกว่า “ความคิดสร้างสรรค์ จริงๆแล้วเกิดจากสมองทั้งสองฝั่ง — และการทำสมาธิจะกระตุ้นสมองทั้งสองซีก

วิธีการนี้ เรียบง่าย  แค่หลับตาและโฟกัสไปที่ลมหายใจของคุณ  อนุญาตให้ใจของเรามีอิสระและอยู่นิ่ง
โฟกัสไปที่ลมหายใจ   สมองจะเข้าสู่คลื่นอัลฟา หรือสถานะของการผ่อนคลายทันที สิ่งนี้ช่วยให้เราไม่ยึดติดกับความคิดเก่าๆ   เพราะ สมองชอบทางลัด มันจะสร้างเส้นทางใหม่ เกิดไอเดียดีๆได้ไม่ยาก

3. เคลื่อนไหว

สตีฟ จ็อบส์ สนับสนุนการ เดินประชุม  เหตุผล คือ การเคลื่อนไหวถูกเชื่อมโยงกับการเพิ่มประสิทธิภาพของความคิดสร้างสรรค์  และ การออกกำลังกายช่วยหลั่งเอ็นดอร์ฟิน —ลดความเครียดและความเจ็บปวด เมื่อเราไม่เครียด สมองของเราจะเข้าสู่พื้นที่สร้างสรรค์ พยายามเพิ่มเวลาออกกำลังกายในปฏิทินของคุณ หากไม่มีเวลา ขอ 20 นาที เพื่อยืดเหยียดที่โต๊ะทำงาน

4. เชื่อมต่อกับผู้คนหลากหลาย
   คบคนหลากหลาย จำไว้ว่าสมองมีความโน้มเอียงที่จะเลือกทางที่ง่ายที่สุด  ความหลากหลายจะทำให้สมองทำงานหนักขึ้น นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์พบว่า “การได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายอาจส่งเสริมการพัฒนารูปแบบการคิดที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น รวมถึงความสามารถในการคิดวิเคราะห์”

สื่อสารกับผู้คนที่มาจากภูมิหลังที่ต่างกัน  มุมมองของพวกเขาจะเป็นตัวกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ความคิดเห็นที่ขัดแย้งสร้างโอกาสใหม่ๆ และช่วยสร้างสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

ครั้งหน้า หากคิดอะไรใหม่ๆไม่ออก  .. ลองใช้หลักประสาทวิทยา ที่ ครีเอทีฟระดับโลกยืนยันว่าได้ผล

Ref.

https://hbr.org/2021/06/train-your-brain-to-be-more-creative

Bas Korsten. Copywriter และ  Global Chief Creative Officer at Wunderman Thompson.
เขียนใน  Harvard business review